อย่างไรก็ตาม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ASPS เชื่อว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ จะช่วยลดแรงกดดันค่าเงินบาทที่แข็งค่า โดย ASPS ยังคงมุมมองเดิมคือ กนง. มีแนวโน้มปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% เป็น 1.25% ในการประชุมที่เหลืออีก 2 ครั้ง คือ 6 พ.ย. และ 18 ธ.ค. 2562 โดยให้น้ำหนักรอบวันที่ 6 พ.ย. 2562 มีโอกาสเป็นไปได้สูงที่จะเห็นการปรับลดดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจไทย และลดแรงกดดันจากค่าเงินบาท
โดยผลการดำเนินงานในช่วงดังกล่าวเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้จากการขายและการให้บริการของกลุ่มไทยคม และไอทีเอเอส โดยรายไดจากการขายและการให้บริการในปี 2558 เติบโตขึ้น จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการให้บริการดาวเทียม โดยเฉพาะดาวเทียมไทยคม 7 ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่ไตรมาส 4/2557 และสามารถขายช่องสัญญาณดาวเทียมได้เต็มร้อยในไตรมาส 4/2558 โดยรายได้จากการขายและให้บริการเติบโตตามประมาณการที่ร้อยละ 5-7
ส่วนดัชนีฯ ของภาคที่มิใช่การผลิตปรับดีขึ้น นำโดยภาคก่อสร้างที่มีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในด้านปริมาณการก่อสร้าง การลงทุน และผลประกอบการ ส่วนหนึ่งจากที่ผู้ประกอบการคาดว่าปัญหาความล่าช้าของ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 จะคลี่คลาย รวมถึงภาคค้าส่งที่มีความเชื่อมั่นด้านปริมาณการค้าและคำสั่งซื้อปรับดีขึ้นมาก ซึ่งเป็นสัญญาณว่าในระยะข้างหน้า การบริโภคภาคเอกชนจะมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทคาดหวังจะมีผลกำไรไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาทเข้ามาจากธุรกิจไฟฟ้า หากโรงไฟฟ้า 2 แห่งใหม่สามารถผลิตได้เต็มกำลังการผลิต 100 เมกะวัตต์ โดยโรงไฟฟ้าไทยเอกลักษณ์เพาเวอร์ที่จังหวัดอุตราดิตถ์ได้เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) ไปแล้วในวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา การรับรู้รายได้จึงเกิดขึ้นในไตรมาสที่สอง และโรงไฟฟ้าอีกแห่งหนึ่งคือรวมผลไบโอเพาเวอร์จะเริ่มรับรู้รายได้ราวช่วงไตรมาส 3/59
หวย หุ้น แม่น ๆ วัน นี้
Uo40Pt3gal